วิเคราะห์เว็บ แบบบ้านๆ

รู้จักเว็บเราให้ลึกกว่าที่เคย ด้วยเครื่องมือวัดสถิติระดับโลกรู้จัก-เข้าใจ-ใช้เป็น ด้วยตัวเอง
?รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง? สุภาษิตนี้ใช้ได้กับทุกสิ่งแม้กระทั่งการขายของออนไลน์ ที่เราจำเป็นต้องรู้พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาภายในเว็บไซต์ ถ้ารู้จักเขา เราก็ขายของได้ ทำความรู้จักเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ระดับโลก Google Analytics
Google Analytic คือเครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา พัฒนาและให้ใช้ฟรีโดย Google
รู้จักเว็บของเราด้วย Google Analytics
- รู้และเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาในเว็บไซต์ของเรา
- สร้างความรู้และเทคนิคการใช้เครื่องมือ Google Analytics
ลงมือกันเลย
1. รู้จักหลักการวัดผลเว็บไซต์ มาตรฐานที่วัดคุณภาพเว็บไซต์ และวิธีการวัดผลได้ด้วยตัวเอง
สำหรับการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ให้คนเข้ามาใช้งาน บางครั้งเราไม่สามารถใช้วิธีการวัดผลในเชิงธุรกิจได้ เพราะบางครั้งเว็บไซต์บางเว็บ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสำหรับการค้า แต่เราจะมีวิธีการวัดผลอย่างไรบ้าง เพื่อให้รู้ถึงผลลัพภ์ของการทำงานของเรา เราสามารถวัดได้จาก
- คนที่กลับมาที่เว็บไซต์อีกครั้ง (Returning visitors)
ในอินเทอร์เน็ต คุณสามารถวัดผลและทราบได้ว่า เว็บไซต์ของคุณมี “คนที่เคยมาที่เว็บไซต์ของคุณแล้ว” กลับมาอีกครั้งหรือเปล่า ด้วยเทคโนโลยีการใช้ “คุกกี้ (Cookie)” และการใช้เครื่องมือวัดผล-เก็บสถิติเว็บไซต์ ก็จะทำให้คุณสามารถรู้ได้ทันทีไม่ยาก ซึ่งหากลูกค้ากลับมาบ่อย มากเท่าไร นั้นหมายถึงเว็บไซต์ของคุณ มีความน่าสนใจ ที่ดึงดูดลูกค้าเก่าให้กลับมาได้ เช่น คุณมีคนเข้าเว็บไซต์วันละ 1000 คน (UIP) มีลูกค้าเก่า 50 คน นั้นหมายถึง Returning Visitors = 5% - จำนวนหน้าต่อการเปิดดูต่อคน (Pageviews per visit)
เป็นการวัดผู้ที่เข้ามาเว็บไซต์ของคุณต่อครั้งว่า เค้าเปิดหน้าเว็บไซต์กี่หน้า (Pageview) เพราะยิ่งจำนวนหน้าเยอะ แสดงว่าเว็บไซต์คุณมีคนชื่นชอบมาก - การใช้เวลาต่อหน้า (Time on page)
เป็นการวัดว่า ผู้ที่เข้ามาเว็บไซต์ใช้เวลาในการเปิดหน้าเว็บไซต์ของคุณ ต่อหน้านานเท่าไร ทั้งนี้และทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับรูปแบบของเว็บไซต์ด้วย เช่นเว็บไซต์ข่าว อาจจะมีการใช้เวลาต่อหน้านาน เพราะคนต้องใช้เวลาอ่านนาน แต่หากเป็นเว็บบอร์ดหรือเว็บที่ไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไร คนก็จะใช้เวลาต่อหน้าน้อยลงเท่านั้น - เวลาที่ใช้ในเว็บไซต์ (Time on site)
เป็นช่วงเวลาทั้งหมดที่ต่อผู้ใช้ 1 คนใช้เวลาในเว็บไซต์คุณ โดยทั่วไปยิ่งนานเท่าไรยิ่งดี แต่ส่วนใหญ่แล้วเวลาทั่วไปที่คนส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในเว็บไซต์ 1 เว็บประมาณ 5 นาที หรือบางเว็บก็ประมาณ 30 วินาที - อัตราการออกนอกเว็บ (Bounce rate)
อัตราการออกนอกเว็บ (Bounce rate) คือค่าเปอร์เซนต์ ของคนที่เข้ามาในเว็บไซต์แค่หน้าเดียว แล้วเค้าออกจากหน้านั้นไปทันที ไม่ได้กดเข้าไปหน้าอื่นๆ ต่อ ซึ่งมันจะหมายถึงคุณภาพของเว็บไซต์ หรือเว็บไซต์ของคุณอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของผู้ที่เข้ามา ทำให้เค้ากดออกไป หรือปิดหน้าเว็บไซต์นั้นๆ ดังนั้นการทำหน้าเว็บไซต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดคนจะทำให้อัตราการออกนอกเว็บ ลดน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์คุณมีคนเข้ามาเว็บไซต์ คุณวันละ 10,000 คน แล้วพบกว่ามีอัตรา การออกนอกเว็บ (Bounce rate) 95% น้นหมายถึง คุณจะมีคนที่เข้ามาเว็บไซต์คุณจริงๆ แค่ 500 คนเท่านั้น
2. ติดตั้ง Google Analytics, วางแผนเป้าหมายที่ต้องการ ดูข้อมูลได้ทันที!
– เข้าเว็บ http://www.google.com/analytics/ เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียนใหม่
– ทำการลงทะเบียน โดยกดปุ่ม Admin ด้านขวาบน แล้วเลือก + New Account ใส่ข้อมูลดังนี้
- ชื่อเว็บไซต์ เช่น monmai.com
- เว็บไซต์ URL เช่น www.monmai.com
- เลือก Industrial Category เช่น Business and Industrial Markets
- เลือกประเทศ เช่น Thailand ตรงนี้ Google Analytics จะเก็บข้อมูลโดยอ้างอิงเวลาตามเวลาประเทศที่เราเลือกครับ
- ชื่อ Account เช่น suanmonmai ตรงนี้จะเป็นชื่อ Account ใน Google Analytics ในกรณีมีการเก็บข้อมูลหลายเว็บไซต์ ให้ตั้งชื่อให้เราเห็นแล้วรู้เลยว่า Account นี้เป็นของเว็บไซต์ไหน
- จากนั้นก็กด Get Tracking ID
-นำ Source code ด้านล่าง ไปใส่ในหน้าเว็บไซต์ของเราทุกหน้า ตรงนี้ถ้าคนที่ทำไม่เป็นก็สามารถส่งให้ Webmaster หรือคนรับทำเว็บไซต์ที่เราใช้บริการแปะให้ก็ได้
3. จากนั้น Google Analytics จะเริ่มเก็บข้อมูลการเข้าเว็บของเรา เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เชิงลึกได้ หาข้อมูลไปวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย แหล่งที่มาของผู้เขาชมเว็บ หาช่องทางการตลาดที่ใช่และโดน วิเคราะห์ เว็บไซต์/ร้านค้า เจาะลึกหาความนิยมภายในเว็บ เนื้อหาไหน สินค้าไหน โดนใจลูกค้า รู้วิธีติดตามพฤติกรรมคนดูเว็บแบบทุกฝีก้าว คลิกที่ไหน ดูอะไรเรารู้หมดคำศัพท์ที่ควรรู้เพื่อใช้ Google Analytics นั้นมีอยู่เยอะแยะมากมาย ผมก็เลยคัดเอา 15 ตัวที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นมาให้ดูกันครับ ในเมนูต่างๆ สามารถใช้งานและดูรายละเอียดได้ดังนี้
– Users: ก็คือจำนวนคนที่เข้าเว็บไซต์ของเรา สมมุติถ้าคุณเปิด Google Analytics แล้วมันแสดงสถิติว่ามี 5,000 Users หมายความว่ามีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด 5,000 คน
– Sessions: Session (ชื่อเดิมของมันคือ Visit) คือตัวเลขที่แสดงการเปิดเข้าชมเว็บไซต์หรือการเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ สมมุติถ้าคุณเปิด Google Analytics แล้วมันแสดงสถิติว่ามี 7,000 Session หมายความว่ามีการเปิดเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด 7,000 ครั้ง
ทั้ง User และ Metric นั้นจริงๆแล้วมันไม่สามารถบันทึกได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 100% เนื่องด้วยปัญหาทางเทคนิค ลองอ่านในโพสนี้ดูว่าทำไมและควรใช้ทั้งคู่อย่างไร http://hooktalk.com/session-and-user-googleanalytics/
– Pageviews: คือจำนวนการเปิดดูหน้าเพจนั้นๆซึ่งมันก็คือจำนวนครั้งที่หน้าเพจนั้นถูกโหลดขึ้นมานั่นเอง สมมุติว่ามีคนเปิดหน้าโฮมเพจรวมเป็นจำนวน 500 ครั้งนั่นหมายความว่า Pageview จะเท่ากับ 500 โดยมันจะนับรวมการโหลดทุกครั้งแม้ว่าจะมากจากคนๆเดียวกันก็ตามเช่น สมชายเปิดเว็บเพจหน้า A ทั้งหมด 3 ครั้ง (หน้าเพจ A ถูกโหลด 3 ครั้ง) Pageviews จะเท่ากับ 3
– Unique Pageviews: คล้ายๆกับ Pageviews ตัวด้านบนนั่นแหละครับแต่ Unique Pageviews จะไม่นับการโหลดซ้ำที่มาจาก Session เดียวกัน ยกตัวอย่างจากกรณีเดียวกันคือสมชายเปิดเว็บเพจ A ทั้งหมด 3 ครั้งจะนับ Unique Pageviews ได้เท่ากับ 1 เท่านั้น (เพราะทั้ง 3 มาจาก Session เดียวกัน)
– Avg. Time on Page: คือระยะเวลาเฉลี่ยที่ User ใช้ในหน้าเว็บเพจนั้นๆ ยิ่งค่าเฉลี่ยเยอะแสดงว่าหน้าเพจนั้น User ใช้เวลาอยู่ในหน้าเพจนั้นนาน แต่ถ้าน้อยแสดงว่า User ใช้เวลากับหน้าเพจนั้นไม่นาน
– Avg. Page Load Time (sec): คือระยะเวลาเฉลี่ยในการโหลดเพจนั้นขึ้นมา ยิ่งค่าเฉลี่ยน้อยแสดงว่าเพจนั้นโหลดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้ายิ่งเยอะแสดงว่าเพจนั้นโหลดได้ช้าควรปรับปรุง ระยะเวลามีหน่วยเป็นวินาที
– Goal: คือกิจกรรมที่เป็นเป้าหมายของเว็บไซต์ยกตัวอย่างเช่น การขายสินค้า, การสมัครสมาชิก, การดาวน์โหลดโบรชัวร์, การกรอกฟอร์มเพื่อให้ข้อมูลติดต่อของลูกค้า เราสามารถตั้งค่า Goal ในเว็บไซต์เราได้ว่าต้องการให้เป้าหมายเป็นอะไร หลังจากนั้นก็ควรปรับแต่งเว็บไซต์หรือสร้างกิจกรรมที่จะทำให้ Goal เกิดขึ้นมากที่สุด ที่น่าสนใจคือ Goal กับ Conversion นั้นไม่เหมือนกัน แต่หลายๆครั้งมันก็ถูกตีความหมายให้คล้ายกันจนเราสามารถใช้แทนกันได้ และ Google Analytics ก็อนุญาติให้เรา Import Goal ไปใช้เป็น Conversion ใน Google Adwords ได้ด้วย
– Source/Medium: เป็นหนึ่งใน Metric ที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญมากๆเพราะมันจะบอกเราว่า คนเข้าเว็บไซต์ของเรามาจากที่ไหน โดย Source หมายถึงแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเช่นจาก Facebook.com, Google, Pantip ส่วน Medium หมายถึงวิธีการที่ Session นั้นใช้เพื่อเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราเช่น organic, cpc, referral ยกตัวอย่างวิธีการดู Source/Medium ง่ายๆคือสมมุติว่ามันแสดงว่าเป็น Google/Organic หมายความว่า Session เข้ามาจาก Google ด้วยผลการค้นหาแบบปกติ (ไม่ใช่โฆษณา)
– Avg. Session Duration: คือระยะเวลาเฉลี่ยของแต่ละ Session ว่าอยู่ในเว็บไซต์นานแค่ไหน
– Exit Rate: ชื่อภาษาไทยคือ ?อัตราการออก? เป็น Metric ที่แสดงจำนวน ?เปอร์เซ็นต์ที่หน้าเพจนั้นเป็นหน้าสุดท้ายของ Session ก่อนที่ Session นั้นจะกดปิดออกจากเว็บไซต์? หรือที่เราเข้าใจกันดีว่ามันคือ หน้าสุดท้ายก่อนออกจากเว็บไซต์ เช่นสมมุติว่าคนอ่านเว็บไซต์ทั้งหมด 5 หน้าคือ A > B > C > D > E > F หน้าสุดท้ายก็คือ F
– Bounce Rate: ชื่อภาษาไทยของมันคือ ?อัตราการตีกลับ? มันคืออัตราส่วนของการออกจากเว็บไซต์หลังจากผู้ชมเข้าเปิดเพียงแค่หน้าเพจเดียวและไม่ได้ทำ event ใดๆในหน้าเว็บเพจนั้นเลย (Session ของผู้ชมมีเพียงแค่ interaction เดียวคือ Pageview) หรืออธิบายง่ายๆก็คือเข้ามาเว็บไซต์แล้วจากนั้นกดออกจากเว็บไซต์โดยที่ไม่ได้เปิดหน้าเพจอื่นๆในเว็บไซต์
ค่าที่จะแสดงข้อมูลออกมา (ซึ่งเรียกว่าเป็น Metric กับ Dimension) โดยการทำงานของ Google Analytics จะนำเอา Metric กับ Dimension หลายๆตัวมารวมกันเป็น Report ซึ่งสามารถจำแนกประเภทของ Report ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆคือ
– Audience Report: เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ว่าผู้เข้าชมมีจำนวนเท่าไหร่ มีอายุเท่าไหร่ เพศอะไร มาจากจังหวัดไหน ความชอบและความสนใจเรื่องอะไร เปิดเว็บไซต์ของเราด้วย Browser อะไร เปิดเว็บไซต์ของเราด้วย Device อะไร (สามารถบอกได้ถึงยี่ห้อและรุ่นของผู้เข้าชมเลยทีเดียว)
– Aquisition Report: เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่นเข้าชมเว็บไซต์โดยมาจากที่ไหน มาด้วยวิธีการอะไร มาจากแคมเปญอะไร และยังเป็นส่วนที่แสดงข้อมูลของผู้เข้าชมที่มาจาก Adwords ด้วยว่ามาจาก Keyword อะไร
– Behavior Report: เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลพฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์เช่น เข้าเว็บไซต์หน้าแรกที่หน้าเพจไหน เปิดเพจหน้าไหนในเว็บไซต์บ้าง แต่ละหน้าถูกโหลดขึ้นมาเป็นจำนวนกี่ครั้ง ออกจากเว็บไซต์ที่หน้าเพจไหนบ้าง ความเร็วในการโหลดแต่ละหน้าเพจเฉลี่ยแล้วเป็นเท่าไหร่
– Conversion Report: เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลยอดขายที่เกิดขึ้นภายในเว็บไซต์เช่น รายงานข้อมูลของ Goal ที่เราทำการเซ็ตอัพเอาไว้ ว่าเกิดความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าอะไรกันบ้าง จำนวนเท่าไหร่ รวมเป็นเงินเท่าไหร่